รัฐฯ เต้นโรงงานนำขยะมาฝังกลบในที่ดินชาวบ้านแหลมฉบัง (18 ก.พ. 59)
MGR Online 18 กุมภาพันธ์ 2559
รัฐฯ เต้นโรงงานนำขยะมาฝังกลบในที่ดินชาวบ้านแหลมฉบัง
เจ้าหน้าที่กำลังเร่งขุดขยะดังกล่าว นำไปทิ้งบ่อขยะของเทศบาลฯแหลมฉบัง
ศูนย์ข่าวศรีราชา-โรงงานมักง่ายอีกแล้ว ขนขยะมาฝังกลบในที่ดินชาวบ้านแหลมฉบัง พร้อมขนทิ้งในบ่อขยะของเทศบาลฯ เทศบาลฯ เตรียมประสานอุตสาหกรรมจังหวัดเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการค้าของเก่า และเรียกค่าเสียหายที่เกิดขึ้น
จากกรณีที่มีโรงงานอุตสาหกรรม นำขยะจากโรงงานมาฝังกลบในที่ดินของชาวบ้านนับ 10 หลุม บริเวณถนนสายเก้ากิโล หมู่ 6 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จนชาวบ้านใกล้เคียง และเจ้าของที่ดินได้รับความเดือดร้อน และมีการร้องเรียนเทศบาลนครแหลมฉบัง จึงเข้าตรวจสอบในพื้นที่ที่ได้รับการร้องเรียน โดยจากการเข้าตรวจสอบพบเป็นขยะทั่วไปจากโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และพื้นที่อื่นๆ ด้วย
ล่าสุด วันนี้ (18 ก.พ.) นางอารีย์ ตรีรัตนเวช ผู้อำนวยการสำนักงานสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลนครแหลมฉบัง กล่าวว่า จากกรณีที่ขยะนำไปฝังกลบในที่ดินของบ้าน โดยหวั่นจะเป็นขยะสารพิษนั้น ซึ่งจากการเข้าไปตรวจสอบ พบว่า เป็นพื้นที่ดังกล่าวทางหจก.เกษตรพันธุ์ทิพย์ ได้ขอเช่าที่ดินจากชาวบ้านเพื่อค้าของเก่า และคัดแยกขยะ ซึ่งได้รับใบอนุญาต ประเภท 105 จากอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี เป็นขยะทั่วไปที่ไม่อันตราย ซึ่งมีอยู่ประมาณ 20 ตัน
ขณะนี้ได้ว่างจ้างให้บริษัทเอกชนเข้ามาดำเนินการขุด และขนขยะต่างๆ ไปยังบ่อฝังกลบของเทศบาลนครแหลมฉบัง เพื่อความสบายใจของชาวบ้านที่เป็นเจ้าของที่ดิน ส่วนค่าใช้จ่ายต่างๆ นั้นจะเรียกเก็บจาก หจก.เกษตรพันธุ์ทิพย์ ต่อไป
นางอารีย์ กล่าวต่อไปว่า หลังจากนี้จะทำหนังสือถึงอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี ว่า หจก.ดังกล่าวไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขใบอนุญาต ประเภท 105 ของอุตสาหกรรมจังหวัด เพื่อให้อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี พิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตของหจก. ดังกล่าวต่อไป
นอกจากนั้น เทศบาลจะขึ้นแบล็กลิสต์หจก.ดังกล่าวด้วย เพื่อไม่สามารถมาขออนุญาตประกอบกิจการต่างๆ ในพื้นที่ของเทศบาลฯ พร้อมประสานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี ให้ทำหนังสือเวียนไปยังนิคมอุตสาหกรรม และโรงงานต่างๆ เพื่อไม่ให้ทำธุรกรรมต่อหจก.ฯ นี้
สำหรับขยะที่พบนั้นส่วนใหญ่เป็นเศษไม้ ปลอกสายไฟ ผ้าบุเบาะรถยนต์ พรมปูพื้นรถยนต์ ขอบยางประตูรถยนต์ ซึ่งไม่ใช่ขยะอันตรายแต่อย่างใด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขนขยะออกจากพื้นที่ของชาวบ้าน เพื่อไม่ให้ชาวบ้านวิตกกังวลต่อปัญหาดังกล่าวต่อไป คาดว่าจะใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกว่าจะขนขยะดังกล่าวหมด
ด้าน นางทัน อินผลเล็ก อายุ 69 ปี เจ้าของที่ดินกล่าวว่า หลังเกิดปัญหาขึ้น และมีหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาดำเนินการช่วยเหลือก็ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย เพราะที่ผ่านมา วิตกกังวลต่อขยะที่นำมาฝังกลบเป็นอย่างมาก เพราะไม่ทราบเป็นขยะชนิดไหนแบบไหน เนื่องจากเป็นชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย โดยมีเพียงคนมาขอเช่าที่ดินเพื่อค้าของเก่าก็ปล่อยให้เขาเช่าไป เพราะคิดว่าเป็นเพียงกระดาษ หรือขวดพลาสติกเท่านั้น แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ต่อไปคงไม่ปล่อยให้ใครมาเช่าที่ดินอีกแล้ว กลัวมีปัญหาขึ้นอีก
สำหรับขยะดังกล่าว หลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วไม่ใช่ขยะสารพิษก็โล่งใจ และมีการขนย้ายขยะออกจากพื้นที่ด้วยก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะหลังจากนี้จะทำที่ดินแปลงนี้พัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยต่อไป เพราะอยู่ใกล้แหล่งชุมชน
ขยะดังกล่าว มีประมาณ 20 ตัน
จากการตรวจสอบแล้ว เป็นขยะทั่วไปไม่ใช่ขยะอันตราย