จม.เปิดผนึกจากเครือข่ายปกป้องอันดามันฯ ถึง พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ (17 ก.พ. 59)
สำนักข่าวอิศรา 17 กุมภาพันธ์ 2559
จม.เปิดผนึกจากเครือข่ายปกป้องอันดามันฯ ถึง พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์
‘ถ้าใจไม่เป็นธรรม กรรมการ 3 ฝ่ายก็จะกลายเป็นชนวนแห่งความขัดแย้งอันใหม่’
เมื่อเร็วๆ นี้ ทางด้านนายประสิทธิ์ชัย หนูนวล ผู้ประสานงานเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน โพสข้อความในเฟสบุ๊คส่วนตัว ประสิทธิ์ชัย หนูนวล ปรากฎเป็น จดหมายเปิดผนึกถึง พลเอก สกนธ์ สัจจานิตย์ ประธานกรรมการ 3 ฝ่ายกรณีโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ โดยเฉพาะในประเด็นการจัดตั้งที่ปรึกษาซึ่งปรากฏชื่อ อดีตประธานบริษัท ปตท.ร่วมอยู่ด้วย ซึ่งทางเครือข่ายฯเกรงว่าการแต่งตั้งที่ปรึกษาซึ่งเป็นบุคลากรที่เกี่ยวข้องในธุรกิจถ่านหิน จะนำมาซึ่งความเอนเอียงและก่อให้เกิดปัญหาในการทำงาน โดยมีเนื้อหาใจความในจดหมายระบุว่า
‘ถ้าใจไม่เป็นธรรม กรรมการ 3 ฝ่ายก็จะกลายเป็นชนวนแห่งความขัดแย้งอันใหม่’
การเรียกร้องมานานหลายปีของชาวกระบี่และจังหวัดใกล้เคียงต่อการหยุดยั้งการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินนั้นรัฐไม่เคยได้ยินตลอดมา ปล่อยให้เสียงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยดังกลบทำเนียบรัฐบาลมาเป็นเวลานาน จนประชาชนชาวจังหวัดกระบี่ต้องมานั่งอดข้าวประท้วงเป็นเวลา 14 วัน เอาความยากลำบากมาแลกกับการที่รัฐบาลจะฟังเราบ้าง
การดำเนินการครั้งนั้นส่งผลให้เสียงของประชาชนดังลอดเข้าไปในทำเนียบได้บ้าง นำมาสู่การการเจรจากับรัฐบาลจนได้ข้อตกลง3ประการ
อยากให้พลเอกสกนธ์ สัจจานิตย์ จำ 3 ประการนี้ไว้ให้ดี ข้อแรก คือการหยุดกระบวนการพิจารณาอนุมันติรายงานอีไอเอ ข้อสองหยุดการประมูลโรงไฟฟ้าถ่านหิน ข้อสามคือกระบี่ขอผลิตไฟฟ้าเองจากโรงงานปาล์มโดยขอเวลารัฐบาลพิสูจน์ 3ปี ภายใต้การสนับสนุนเรื่องสายส่งของรัฐบาล นี่คือ 3 ประการของข้อเรียกร้อง
ในคราวนั้นข้อเรียกร้อง 2 ข้อแรกได้รับการปฏิบัติแต่ข้อที่สามรัฐบาลไม่สามารถตัดสินใจจึงขอตั้งกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อพิจารณาข้อเสนอนี้โดยให้มีองค์ประกอบของบุคคล๓ฝ่ายคือประชาชน ราชการและ สนช. แต่กว่าจะมีการตั้งกรรมการ 3 ฝ่ายใช้เวลาเกือบครึ่งปี ครั้งนั้นเรามีคำถามว่าทำไมต้องใช้เวลาถึงครึ่งปี วางเกมส์อะไรกันอยู่หรือเปล่า?
ครั้นเมื่อมีการแต่งตั้งกรรมการสามฝ่ายแล้วหน้าที่ของกรรมการระบุชัดในคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีลงนามว่า ขอให้พิจารณาข้อเรียกร้องของชาวกระบี่ คำว่าข้อเรียกร้องจึงหมายถึงข้อ3 คือการพิจารณาการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากโรงปาล์ม แต่เมื่อมีการประชุมกรรมการ 3 ฝ่าย พลเอกสกนธ์ สัจจานิตย์ กลับตั้งอนุกรรมการขึ้นมา3ชุด ประกอบด้วยชุดพลังงานหมุนเวียน ชุดอีไอเอ และชุดติดตามรับฟังความเห็น ปัญหาจึงมีอยู่ว่าทำไมจึงตั้งกรรมการขึ้นมา3ชุด
ในเมื่อข้อเรียกร้องที่จะต้องพิจารณามีข้อเดียวคือเรื่องพลังงานไฟฟ้าจากโรงปาล์ม ต้องการให้ภาพมันเบลอใช่หรือไม่ หรือต้องการสร้างความชอบธรรมให้กับรายงานอีไอเอของ กฟผ. การตั้งกรรมการขึ้นมา๓ชุดจึงดูเหมือนขัดกับข้อเรียกร้องของชาวกระบี่ที่มีต่อนายกรัฐมนตรีในคราวนั้น อย่างไรก็ตามอาจจะเข้าใจได้ว่าพลเอกสกน สัจจานิตย์ ต้องการความชัดเจนทั้งหมดจึงตั้งอนุกรรมการถึง3ชุดต่อประเด็นนี้จึงทำความเข้าใจได้อยู่บ้าง ต่อมาข้อสงสัยในตัวพลเอกสกน สัจจานิตย์ เริ่มมีมากขึ้นเมื่อมีการตั้งที่ปรึกษาขึ้นมา5คน ปัญหาคืออะไร?
ปัญหาของการตั้งที่ปรึกษามีอยู่ 2 ประการ ประการแรกทำไมต้องตั้งที่ปรึกษาขึ้นมาในเมื่อทั้งกรรมการ3ฝ่ายและอนุกรรมการทั้ง3 ชุด นับรวมแล้วเกือบ 100 ชีวิต ล้วนแต่เป็นผู้มีความรู้ความสามารถจำนวนนับ100คนนี้ยังไม่เพียงพอเช่นนั้นหรือ? ปัญหาประการแรกนั้นน่าสงสัย แต่ปัญหาประการที่สองทำให้เราตั้งข้อสังเกตต่อพลเอกสกนธ์ สัจจานิตย์ ว่ายังมีความเป็นธรรมต่อการพิจารณาข้อเสนอของจังหวัดกระบี่อยู่หรือไม่ เพราะได้ตั้งที่ปรึกษาขึ้นมา 5 คน 1ใน 5 คนนั้น มีชื่อว่า นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ อดีตประธานบริษัท ปตท.
คำถามว่าปัญหามันอยู่ตรงไหน? ปัญหาอยู่ตรงที่ ปตท.เป็น 2บริษัทใหญ่ของไทยที่ดำเนินกิจการเกี่ยวกับถ่านหินในขณะที่นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ เคยดำรงตำแหน่งสูงสุดทางการบริหารของบริษัท ปตท. การตั้งที่ปรึกษาในลักษณะนี้เป็นการเอนเอียงต่อทิศทางการทำงานของกรรมการ๓ฝ่าย นี่ยังไม่นับรวมที่ปรึกษาอีก4 คนที่ยังไม่ได้สืบประวัติว่าเกี่ยวข้องอันใดกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยหรือกิจการถ่านหินหรือไม่ การตั้งที่ปรึกษาครั้งนี้จึงส่อเจตนาของพลเอกสกน สัจจานิตย์ จนอาจจะนำไปสู่ข้อสงสัยได้ว่าเอนเอียงหรือไม่?
เราจึงขอน้อมเตือนไปยังพลเอกสกนธ์ สัจจานิตย์ว่า มีแต่จิตใจที่เป็นธรรมเท่านั้นที่จะแก้ปัญหาของประเทศชาติได้ จิตใจที่เอนเอียงจะนำมาสู่ปัญหาใหม่อย่างไม่รู้จักจบสิ้น กรณีกรรมการ 3 ฝ่ายหากยังมีชื่อของที่ปรึกษาซึ่งมีประวัติว่าเกี่ยวข้องกับกิจการถ่านหิน จะทำให้การทำงานหลังจากนี้เต็มไปด้วยความยากลำบาก และอาจก่อปัญหาใหม่มาอย่างไม่รู้จบ
เราขอเรียกร้องต่อพลเอกสกนธ์ สัจจานิตย์ ว่าเพื่อไม่ให้ปัญหาลุกลามบานปลายจงจัดการกับรายชื่อที่ปรึกษาเสียใหม่ให้สะอาดโปร่งใส มิเช่นนั้นเราจะขอเรียกร้องร้องให้กรรมการในส่วนของประชาชนจังหวัดกระบี่ยุติการปฏิบัติหน้าที่ เพราะชาวกระบี่ไม่ควรปฏิบัติงานในกรรมการชุดที่มีเจตนาอันน่าสงสัย
ลงชื่อ
ประสิทธิ์ชัย หนูนวล ผู้ประสานงาน
เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน