กนอ.ทุ่มพันล.ลุยสระแก้วหลัง30บ.ไทยเทศแห่ลงทุนคึกคัก (7 ส.ค. 59)
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 7 สิงหาคม 2559
กนอ.ทุ่มพันล.ลุยสระแก้วหลัง30บ.ไทยเทศแห่ลงทุนคึกคัก
กนอ.ทุ่ม 1,100 ล้าน พัฒนานิคมอุตสาหกรรมสระแก้ว คูโบต้า อีสเทิร์นไรซ์ ฟิลิค ปักหมุดจอง แจงนักลงทุนยังกังวลประเด็นความเป็นไปได้เปิด-ไม่เปิดด่านป่าไร่-หนองเอี่ยน
นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" หลังการลงพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสระแก้ว ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน (SEZ) เฟส 1 ว่า พื้นที่กว่า 660 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ระบบสาธารณูปโภค 163 ไร่ พื้นที่ประกอบธุรกิจ 433 ไร่ พื้นที่สีเขียว 64 ไร่
ได้ใช้เงินลง ทุน 1,100 ล้านบาท เพื่อเตรียมพัฒนาพื้นที่ โดยพื้นที่ทั้งหมดกรมธนารักษ์ให้ กนอ.เช่าระยะเวลา 50 ปีซึ่งจะเริ่มปรับพื้นที่ภายในเดือน พ.ย. 2559 หลังได้รับการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้วเสร็จในเดือน ต.ค. จากนั้นเริ่มก่อสร้างภายในเดือน ม.ค. 2560 แล้วเสร็จภายใน 16-18 เดือน ขณะที่นักลงทุนที่ทำสัญญาจองและได้รับบัตรส่งเสริมแล้วจากสำนักงานคณะ กรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) สามารถเข้ามาตั้งโรงงานได้ทันทีพร้อมการพัฒนาพื้นที่ในนิคม สำหรับถนนสายหลักจะเริ่มขยายจาก 2 เป็น 4 เลน ในปี 2560 แล้วเสร็จในปี 2561
นาย อัฐพล จิรวัฒน์จรรยา ผู้เชี่ยวชาญระดับ 12 กนอ.กล่าวว่า มีนักลงทุนสนใจ 30 ราย ส่วนใหญ่ต้องการลงทุนในอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปอาหาร เครื่องสำอาง แพ็กเกจจิ้ง เครื่องใช้พลาสติก เครื่องจักรกลการเกษตร โลจิสติกส์ อาทิ บริษัท สยามคูโบต้า จำกัด ต้องการผลิตเครื่องจักรกลการเกษตร, บริษัท อีสเทิร์นไรซ์ จำกัด ผลิตข้าวแปรรูป รวมถึงผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจเอาต์ซอร์ซบริการขนส่งโลจิสติกส์ให้กับผู้ ประกอบการในนิคม รวมทั้ง บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC และบริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งจองพื้นที่ 70 ไร่ ส่วนในโซน C มีนักลงทุนจองเต็มพื้นที่ 60 ไร่
"โรง งานเครื่องสำอางย้ายมาตั้งที่นิคมฯสระแก้วส่วนหนึ่งเพราะเรื่องติดผังเมือง และชุมชนในท้องที่ และมานี่ได้สิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีนิติบุคคลสูงสุดถึง 8 ปี ลดหย่อนภาษีอีก 50% เพิ่มอีก 5 ปี ตามเงื่อนไข 13 ประเภทกิจการมีศักยภาพลงทุนที่สระแก้วจะได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด"
สำหรับ สิทธิพิเศษด้านอัตราค่าเช่าที่ดินในนิคมฯ สระแก้ว กนอ.กำหนดว่าค่าเช่าเริ่มต้นที่ 166,000 บาท/ไร่/ปี ถึงสูงสุด 190,000 บาท/ไร่/ปี กรณีที่เช่าที่ดินตั้งแต่ 30 ไร่ ขึ้นไป (ต้องเป็นแปลงที่ดินผืนติดกันเท่านั้น) ในเขตพื้นที่อุตสาหกรรม ได้แก่ เขตพาณิชย์และบริการ (โซน A) เขตอุตฯ ทั่วไป (โซน C D E) เขตประกอบการเสรี (โซน F) และเขตอุตฯโลจิสติกส์ (โซน G) จะได้รับสิทธิ์การยกเว้นค่าเช่าที่ดิน ระยะเวลา 3 ปีแรก
นอกจากนั้น ยังมีในกรณีที่เช่าที่ดินน้อยกว่า 30 ไร่ โดยอัตราค่าเช่าดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเช่าที่ดิน ตามที่ กนอ.กำหนด ซึ่งให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2561 โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องจ่ายค่าสัญญาเช่าจอง 5% ของค่าเช่า รองรับจำนวนโรงได้ถึง 50-70 โรง
ด้านนายยงค์ ดีวง ตัวแทนจากบริษัท ฟิลิค แอนด์ เคลส โฮลดิ้ง จำกัด นักลงทุนสัญชาติอเมริกาสนใจอุตฯ แปรรูปกล้วย (แป้งกล้วย) และชิ้นส่วนยานยนต์ รถยนต์มือ 2 คาดว่าเตรียมเม็ดเงินลงทุนจะเริ่มต้นเฟสแรก 1,000 ล้านบาท เนื่องจากเห็นจุดแข็งด้านวัตถุดิบของไทย กัมพูชา เวียดนาม ที่สามารถรองรับการแปรรูปเป็นแป้งกล้วยส่งออกไปยังอเมริกาและแอฟริกาทั้งหมด
"เอกชน ไม่กังวลสิทธิประโยชน์หรือโปรโมชั่น เพราะเราตั้งใจลงทุนในแถบอาเซียนอยู่แล้ว และพบว่าไทยเหมาะสมที่สุด สิ่งสำคัญคือมีพื้นที่หรือไม่ นอกจากนี้ยังสนใจทำคลังน้ำมันแต่ติดปัญหาคือพื้นอาจไม่ใหญ่พอ อาจหาพื้นที่รอบ ๆ อื่นทดแทน การเลือกนิคมฯ สระแก้วส่วนหนึ่งเพราะใกล้ด่านคลองลึก และในอนาคตหากด่านป่าไร่เกิดยิ่งจะเชื่อมโยงตลาดได้ง่ายขึ้น"
แหล่งข่าวจากนักลงทุนในพื้นที่ กล่าวว่า เมื่อสอบถามนักลงทุนในพื้นที่แล้วพบว่า ยังมีความกังวลในประเด็นเปิดด่านการค้าชายแดน ด่านศุลกากรทั้งป่าไร่ และหนองเอี่ยน เพราะขณะนี้รัฐบาลทั้ง 2 ประเทศยังไม่มีความร่วมมือในการเปิดด่านได้ ซึ่งหากมีการยืนยันและสร้างความเชื่อมั่นได้ว่าเปิดจริง นักลงทุนจะตัดสินใจลงทุนเร็วกว่านี้
อย่างไรก็ตามความแตกต่าง ระหว่างนิคมฯ สระแก้ว และนิคมฯ โอเนียง กัมพูชานั้น ฝั่งไทยความสะดวกและระบบสาธารณูปโภคครบมากกว่า แม้ว่าจะให้สิทธิประโยชน์น้อยกว่าแค่ 1 ปีก็ตาม ขณะที่กัมพูชาลงทุนโดยบริษัท CHHAY CHHAY Investment เริ่มที่เฟส 1 มีโรงงาน 4-5 โรงงานที่ตั้งในนิคม ยอมรับยังมีปัญหาความมั่นคงในระบบไฟฟ้า แต่ข้อดีคือแรงงานราคาถูกเฉลี่ย 150-160 บาท/วัน