เจรจาเหลว! ปมพิพาทชาวเลไร้ข้อยุติ พ่อเมืองภูเก็ตแนะ ‘ไทยใหม่’ ฟ้องคดี (3 ก.พ. 59)

Green News TV 3 กุมภาพันธ์ 2559
เจรจาเหลว! ปมพิพาทชาวเลไร้ข้อยุติ พ่อเมืองภูเก็ตแนะ ‘ไทยใหม่’ ฟ้องคดี

เวทีไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชาวเล 2 ก.พ.ไร้ทางออก บริษัทบารอนฯ ยอมยกที่ดินให้ 2 งาน แลกกับการย้ายสถานที่ประกอบพิธีกรรม ขณะที่ชาวเลราไวย์ปฏิเสธ ยืนกราน สถานที่ทางจิตวิญญาณไม่สามารถย้ายไปย้ายมาได้ ด้าน ผวจ.ภูเก็ต แนะให้ฟ้องคดี ปมออกโฉนดมิชอบ

ที่ประชุมแก้ปัญหาข้อพิพาทที่ดินหาดราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 2 ก.พ.2559 ซึ่งมีนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผวจ.ภูเก็ต เป็นประธาน และมีตัวแทนชาวบ้านกลุ่มไทยใหม่หรือชาวเลราไวย์ ตัวแทนบริษัทบารอน เวิลด์ เทรด จำกัด ผู้ครอบครองเอกสารสิทธิที่ดินบริเวณดังกล่าว และตัวแทนหน่วยราชการต่างๆ เข้าร่วมประชุม ภายหลังเกิดเหตุความรุนแรงชายฉกรรจ์กว่า 100 ราย ปะทะกับชาวบ้านในชุมชนดั่งเดิมจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 10 ราย เมื่อช่วงสายของวันที่ 27 ม.ค.2559 โดยที่ประชุมยังไม่ได้ข้อยุติใดๆ

นายจำเริญ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ นายประเจียด อักษรธรรมกุล รอง ผวจ.ภูเก็ต ดำเนินการรังวัดแนวเขตที่ดินกับพื้นที่ชายหาดเพราะเป็นพื้นที่สาธารณะโดยสภาพ และจะออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (นสล.) ให้ชาวบ้านเดินไปยังศาลาบาไลสถานที่ประกอบพิธีกรรมและที่จอดเรือประมงได้ ส่วนศาลาบาไลที่ตั้งอยู่ในเขตที่ดินบริษัทบารอนฯ ชาวบ้านไม่ยอมย้ายศาลา จึงขอให้บริษัทบารอนฯ พิจารณาว่าจะมอบที่ดินประมาณ 2 งาน ส่วนนี้ให้ชาวบ้านได้หรือไม่

“ภายหลังเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดิน จ.ภูเก็ต ได้ไปรังวัดที่ดินตามโฉนดของบริษัทบารอนฯ พบว่าพื้นที่หน้าชายหาดนับตั้งแต่ต้นมะขามจุดเกิดเหตุปะทะ ไปจนถึงพื้นที่ประกอบพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ของชาวเล (บาไล) ระยะทาง 250 เมตร กว้างตั้งแต่ 1.2-3.5 เมตรนั้น ไม่อยู่ในที่ดินของบริษัทบารอนฯ จึงถือเป็นที่สาธารณะ ซึ่งทางจังหวัดจะออกเอกสารหนังสือสำคัญที่หลวงให้เป็นที่สาธารณะประโยชน์ต่อไป”นายจำเริญ กล่าว

นายจำเริญ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ขึ้นอยู่กับชาวเลว่าพอใจหรือไม่ ซึ่งก็ยังสามารถใช้สิทธิทางกฎหมายฟ้องร้องต่อศาลปกครองต่อไปได้ ส่วนเอกสารสิทธิหากพบการออกโฉนดโดยมิชอบก็ให้ไปฟ้องร้อง ส่วนตัวเชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

อย่างไรก็ตาม ระหว่างการเจรจาตัวแทนบริษัทบารอนฯ ได้เสนอว่าพร้อมจะยกที่ดินขนาด 2 งาน ให้กับกลุ่มชาวเลเพื่อจัดตั้งเป็นบาไล แต่กลุ่มชาวเลต้องย้ายบาไลจากที่เดิมมาอยู่ในที่ดินขนาด 2 งาน แห่งนี้ ขณะที่ ผวจ.ภูเก็ต ได้โน้มน้าวใจกลุ่มชาวเลให้รับข้อเสนอเพื่อยุติปัญหา แต่ตัวแทนชาวเลราไวย์ได้กล่าวปฏิเสธต่อที่ประชุม โดยยืนยันว่าบาไลเป็นสถานที่ทางจิตวิญญาณที่ไม่อาจเคลื่อนย้ายไปๆ มาๆ ได้

 

พล.อ.สุรินทร์ พิกุลทอง ประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในที่อยู่อาศัยพื้นที่ทำกินและพื้นที่ทางจิตวิญญาณของชุมชนชาวเล กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการกำหนดกรอบและแนวทางว่าจะมีการดำเนินการกับพื้นที่พิพาท และตรวจสอบการได้มาของโฉนดที่ดินอย่างไร

ด้าน นายวีระชัย ตันติวัฒนวัลลภ เจ้าของที่ดินอีกรายหนึ่งซึ่งกำลังมีคดีฟ้องร้องกับชาวบ้าน กล่าวว่า เจ้าของที่ดินซึ่งมีเอกสารสิทธิในพื้นที่ซึ่งชาวเลอยู่อาศัยหลายราย มีที่ดินรวมกัน 19 ไร่ ยินดีขายที่ดินให้กับทางราชการ เพื่อยกให้ชาวเลตัดปัญหาไป มิเช่นนั้นอีกกี่ร้อยปีก็อยู่กันอย่างนี้ไม่จบ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กำลังพิจารณาว่าปัญหามีความเป็นมาอย่างไร การเป็นเจ้าของที่ดินซื้อมาจากไหน ซื้อมาอย่างไร ถูกต้องหรือไม่ ว่ากันให้จบก่อน