ชาวอ่างทองรวมตัว ค้านสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน โอดทรมานมากว่า 40 ปี (1 ก.พ. 59)
ไทยรัฐออนไลน์ 1 กุมภาพันธ์ 2559
ชาวอ่างทองรวมตัว ค้านสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน โอดทรมานมากว่า 40 ปี
ชาวอ่างทองรวมตัวบุกศาลากลางจังหวัด ยื่นเรื่องพ่อเมือง ไม่เอาโรงงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน หลังเปิดมา 40 ปีทำให้ ปชช.ทุกข์ทรมาน หลายรายได้รับผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ขณะผู้ว่าฯรับเรื่อง จ่อเชิญทางโรงงานปรึกษาหาทางออกร่วมกัน...
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 1 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวจังหวัดอ่างทองกว่า 2,000 คนได้รวมตัวกันเดินทางมายังบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด เพื่อเรียกร้องคัดค้านไม่เอาถ่านหินของ โรงงานแห่งหนึ่ง ที่ทำเรื่องขอขยายโรงงาน เพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหิน ซับบิทูมินัส ในการผลิตกระแสไฟฟ้า เนื่องจากหวั่นอันตรายที่จะได้รับความเดือดร้อน หากการมีก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหิน
ด้านนายชูศักดิ์ ศรีราชา แกนนำชมรมคนรักอ่างทอง กล่าวว่า วันนี้ชาวจังหวัดอ่างทองรวมตัวมาเรียกร้องจำนวนสามข้อ คือ 1.ไม่เอาโรงงานถ่านหิน 2. ขอเจรจาสามฝ่ายในการขยายโรงงาน และ 3. เรื่องกลิ่นเหม็นของโรงงาน โดยประชาชนชาวจังหวัดอ่างทองได้รับผลกระทบเรื่องกลิ่นเหม็นคล้ายสารเคมี ผงฝุ่นเขม่าจากโรงงานไทยเรยอน มานาน 40 ปีแล้ว ตั้งแต่พ.ศ. 2519 และได้มีการร้องเรียนมายังหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่มีการปรับปรุงแก้ไขปัญหาให้ลดลง ประชาชนต้องทนทุกข์ทรมานต่อกลิ่นเหม็นคล้ายสารเคมีที่น่ารังเกียจอยู่เป็นประจำ และมีจำนวนไม่น้อยที่ต้องป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ และมีแนวโน้มว่าจะเสียชีวิตเพราะโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นทุกปี
ผู้ที่อยู่บริเวณรอบโรงงานในรัศมี 2-3 กิโลเมตร เช่น ตำบลโพสะ ตำบลบ้านอิฐ ตำบลบ้านรี ตำบลป่าโมก ตำบลสายทอง ตำบลโรงช้าง เทศบาลตำบลศาลาแดง และประชาชนอีกส่วนหนึ่งที่อยู่รอบโรงงานในรัศมี 5-10 กิโลเมตร ก็ยังได้รับผลกระทบจากกลิ่นเหม็น และผงฝุ่นจากโรงงานด้วยเช่นกัน เมื่อทิศทางลมเปลี่ยนทิศ เช่น ในฤดูร้อน กลิ่นเหม็นคล้ายสารเคมีและผงฝุ่นจะไปถึงตำบลองครักษ์ อำเภอโพธิ์ทอง และตำบลชัยฤทธิ์ อำเภอไชโย หากในฤดูหนาวกลิ่นเหม็นคล้ายสารเคมีและผงฝุ่นจะไปถึงตำบลเอกราช ตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก และหากลมแปรปรวน กลิ่นดังกล่าวจะไปถึงตำบลบางจัก ตำบลไผ่ดำพัฒนา ตำบลหัวตะพาน ตำบลมหาดไทย ตำบลหลักแก้ว ตำบลห้วยคันแหลน ตำบลคลองขนาก อำเภอวิเศษชัยชาญ
"โรงงานดังกล่าวได้ดำเนินการขออนุญาตขยายโรงงาน เพื่อผลิตไอน้ำ และไฟฟ้าโดยใช้เชื้อเพลิงคือ ถ่านหิน ซึ่งในอดีตประชาชนอยู่กันอย่างผาสุก มีอากาศบริสุทธิ์ สามารถรองน้ำฝนไว้ดื่มได้ หลังจากโรงงานไทยเรยอน มาก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2519 ประชาชนต้องทนทุกข์กับกลิ่นเหม็น ผงฝุ่น และไม่สามารถรองน้ำฝนไว้ดื่มได้ ครั้งนี้โรงงานดังกล่าวจะนำถ่านหินมาใช้เป็นเชื้อเพลิงปีละ 320,000 ตัน ซึ่งจะทำให้เกิดผลกระทบเพิ่มขึ้นอีกเป็นอย่างมากแน่นอน ประชาชนจะต้องทนทุกข์ทรมานไปตลอดชีวิต หากโรงงานไทยเรยอนสามารถขยายโรงงานครั้งนี้หรือครั้งต่อไปได้อีก" นายชูศักดิ์กล่าว
ขณะที่ นายวีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี ผวจ.อ่างทอง กล่าวว่า ทางจังหวัดรับเรื่องร้องทุกข์ความเดือดร้อนของชาวบ้านในจังหวัดอ่างทอง จำนวน 3 ข้อ คือ 1.ไม่เอาโรงงานถ่านหิน 2.ขอเจรจาสามฝ่ายในการขยายโรงงาน และ 3.เรื่องกลิ่นเหม็นของโรงงาน โดยหลังจากการรับเรื่องร้องทุข์แล้วพร้อมดำเนินการร่วมปรึกษาหารือกับตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน พร้อมนำข้อมูลที่ประชาชนคัดค้านเพื่อนำเสนอกรมอุตสาหกรรม หากทางโรงงานดังกล่าว ยื่นเรื่องเพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหิน ซับบิทูมินัส ในการผลิตกระแสไฟฟ้าต่อ และพร้อมตั้งกรรมการสามฝ่ายในการหาข้อยุติ พร้อมการตรวจกลิ่นเห็นที่มีมาอย่างยาวนาน และเชิญทางโรงงานมาพูดคุยหาทางออกในวันอังคารที่ 2 ก.พ.59 พร้อมแจ้งเรื่องราวต่อตัวแทนชาวบ้านให้ได้รับรู้ถึงผลการเจรจา.