กสม.สอบ ‘ราไวย์’ ปะทะเดือด 1 ก.พ.นี้ ‘ครูแดง’ จวกชายฉกรรจ์เย้ย กม.-ก่อเหตุอุกอาจ (28 ม.ค. 59)

Green News TV 28 มกราคม 2559
กสม.สอบ ‘ราไวย์’ ปะทะเดือด 1 ก.พ.นี้ ‘ครูแดง’ จวกชายฉกรรจ์เย้ย กม.-ก่อเหตุอุกอาจ

กสม.เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุการณ์ชายฉกรรจ์ทุบชาวเลราไวย์ จ.ภูเก็ต ในวันที่ 1 ก.พ.นี้ “เตือนใจ” ระบุ พฤติกรรมอุกอาจเย้ยกฎหมาย วอนนำตัวคนผิดมาลงโทษ ด้าน “พล.อ.สุรินทร์” เผยปัญหาโฉนดค้างอยู่กรมที่ดิน เตรียมจี้ ผวจ.ภูเก็ต เร่งรัดดำเนินการ

นางเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) และประธานอนุกรรมการด้านสิทธิชุมชนและฐานทรัพยากร เตรียมลงพื้นที่ชุมชนชาวไทยใหม่ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ในวันที่ 1 ก.พ.2559 เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นช่วงสายของวันที่ 27 ม.ค.2559 จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 10 ราย

นางเตือนใจ กล่าวว่า รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น และมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าวซึ่งอาจบานปลายได้ ดังนั้นในระยะสั้นเพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นอีก จึงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการกระทำใดๆ อันเป็นการยั่วยุหรืออาจนำไปสู่การปะทะหรือขยายความขัดแย้งให้บานปลายออกไป

นางเตือนใจ กล่าวอีกว่า ขอให้ ผวจ.ภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความสงบในพื้นที่ดังกล่าวมิให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นมาอีก โดยเจ้าหน้าที่รัฐสมควรวางตัวเป็นกลางและดำเนินการโดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน นอกจากนั้นยังเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ และนำผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย และผู้ที่เกี่ยวข้องมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม เนื่องจากถือว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง

“วันที่ 1 ก.พ.นี้ ในฐานะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และประธานอนุกรรมการสิทธิชุมชนและฐานทรัพยากร พร้อมทั้งผู้เชี่ยวชาญ จะลงไปพื้นที่พิพาทเพื่อติดตามตรวจสอบเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น รวมทั้งหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาข้อพิพาทดังกล่าวต่อไป โดยเบื้องต้นได้มอบหมายให้อนุกรรมการฯ ไปพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ของเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น” นางเตือนใจ กล่าว

พล.อ.สุรินทร์ พิกุลทอง ประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในที่อยู่อาศัย พื้นที่ทำกิน และพื้นที่ทางจิตวิญญาณของชุมชนชาวเล สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภายหลังที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เข้าตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์และพบว่าชาวเลอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมาก่อนจริง จึงได้ส่งเรื่องขอเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ทับชาวบ้าน 19 ไร่ ซึ่งขณะนี้เรื่องยังค้างอยู่กรมที่ดิน และกระบวนการตรวจสอบของ จ.ภูเก็ต

“ในวันที่ 29 ม.ค.นี้ ผมจะเร่งรัดให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้ดำเนินการอีกครั้ง”พล.อ.สุรินทร์ กล่าว

พล.อ.สุรินทร์ กล่าวอีกว่า ชาวเลอยู่กันมานานมาก ก่อนจะมีการก่อตั้งกรุงเทพมหานคร (กทม.) อีกด้วย ฉะนั้นการพิจารณาไต่สวนจะดูเฉพาะเอกสารอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูพยานหลักฐานอื่นประกอบด้วย

“เราต้องเอาความจริงทั้งทางกว้างและทางลึกมาคุยกัน” พล.อ.สุรินทร์ กล่าว