สตง.สั่งตรวจสอบบ่อขยะเทศบาลนาแกงบกว่า 72 ล้าน ปล่อยร้าง ส่อทุจริต (23 ม.ค. 59)

มติชนออนไลน์ 23 มกราคม 2559
สตง.สั่งตรวจสอบบ่อขยะเทศบาลนาแกงบกว่า 72 ล้าน ปล่อยร้าง ส่อทุจริต

สตง.ลุยตรวจสอบศูนย์กำจัดขยะเทศบาลตำบลนาแก งบกว่า 72 ล้าน สร้างเสร็จใช้งานไม่ได้ ปล่อยร้าง พบปัญหาส่อทุจริต ชาวบ้านโวยเกิดมลภาวะกระทบ 4 หมู่บ้าน เกือบ 1,000 ครัวเรือน สูดดมกลิ่นเหม็น พ่อเมืองรุดตรวจสอบ ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง เร่งหาทางแก้ไขเบื้องต้น ห่วงปัญหาขยะสร้างมลภาวะชุมชน

เมื่อวันที่ 23 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้ากรณีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเข้าตรวจสอบปัญหาโครงการก่อสร้างศูนย์กำจัดขยะมูลฝอย กลุ่มพื้นที่ 3 งบประมาณก่อสร้างจำนวน 72 ล้านบาท ของเทศบาลตำบลนาแก อ.นาแก จ.นครพนม ซึ่งได้รับงบประมาณจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 69 ล้านบาท และเทศบาลตำบลนาแกบางส่วน ซึ่งดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่ประมาณปี 2553 แล้วเสร็จปี 2554 ในพื้นที่ ต.นาเลียง อ.นาแก จ.นครพนม เนื้อที่ประมาณ 70 ไร่ เพื่อดำเนินการคัดแยกขยะในพื้นที่รับผิดชอบ ประกอบด้วย อ.นาแก, ธาตุพนม, เรณูนคร และ อ.วังยาง จ.นครพนม สามารถคัดแยกขยะมูลฝอยออกจากขยะจุลินทรีย์ ก่อนนำไปทำปุ๋ยอัดเม็ดส่งขายในชุมชน ลดต้นทุนการเกษตร แต่ใช้งานได้ประมาณ 2 ปี ได้หยุดชะงักลง และปล่อยทิ้งไม่ได้ใช้งานตั้งแต่ปี 2556 สาเหตุมาจากมีงบประมาณในการบริหารจัดการไม่เพียงพอ เนื่องจากปริมาณขยะที่เข้ามาไม่เพียงพอ ซึ่งมีความต้องการวันละประมาณ 80 ตัน แต่มีเพียงวันละประมาณ 9 ตัน ไม่คุ้มค่ากับต้นทุนการดำเนินการที่อยู่เดือนละประมาณเกือบ 2 แสนบาท ทำให้เทศบาลตำบลนาแกต้องหยุดดำเนินการเพราะขาดทุนเดือนละประมาณ 1 แสนบาท

ทำให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบความถูกต้องตั้งแต่การวางแผนการก่อสร้าง รวมถึงที่มาของโครงการ เนื่องจากไม่มีความเหมาะสม ใช้งบประมาณสูงเกินความจำเป็น และไม่คุ้มค่ากับการดำเนินการ โดยพบว่าเครื่องจักรมีปัญหา ไม่มีศักยภาพในการคัดแยกขยะมูลฝอยออกจากขยะจุลินทรีย์ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ตามการออกแบบก่อสร้าง นอกจากนี้ สิ่งที่ตามมาคือปัญหาขยะมูลฝอยที่นำมาทิ้งวันละเกือบ 10 ตัน ไม่ได้รับการกำจัด ปล่อยทิ้งจนเกิดมลภาวะ ส่งกลิ่นเหม็น หมอกควันจากการเผาขยะ แมลงวันตอม และในช่วงหน้าฝนยังมีน้ำเสียไหลลงพื้นที่การเกษตร นาข้าวเสียหาย สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงมานานหลายปี ประกอบด้วย บ้านนามน หมู่ 3 บ้านหนองกระบี่ หมู่ 4 บ้านโพนสวรรค์ หมู่ 7 และบ้านทุ่งตะวัน หมู่ 12 รวมชาวบ้านได้รับผลกระทบเกือบ 1,000 ครอบครัว

ทั้งนี้ ทางด้านนายวิทยา แสงสุวรรณ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนาแก ออกมายืนยันว่า โครงการก่อสร้างดังกล่าวมีปัญหาจริง เพราะระบบเครื่องจักรทำงานไม่ได้ตามวัตถุประสงค์การออกแบบ ต้องว่าจ้างแรงงานเพิ่มวันละ 20 -30 คน ในการคัดแยกขยะ ส่งผลต่อต้นทุนการจัดการ เคยเสนอปัญหาไปยังจังหวัดรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีงบประมาณมาดำเนินการแก้ไข และทางเทศบาลตำบลนาแกไม่มีศักยภาพเพียงพอ จึงมีความจำเป็นต้องหยุดเดินเครื่องเพื่อแก้ปัญหาขาดทุนเดือนละประมาณ 1 แสนบาท ซึ่งโครงการดังกล่าวยังเป็นของคณะผู้บริหารชุดเดิมที่ก่อสร้างไว้ และตนได้มาดำรงตำแหน่งภายหลังเกิดปัญหาเมื่อปี 2556 ซึ่งจะได้หาทางดูแลช่วยเหลือในเรื่องมลภาวะให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

ล่าสุด ทางด้านนายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายวิทยา แสงสุวรรณ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนาแก และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อหารือแนวทางแก้ไข เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า เครื่องจักรของศูนย์กำจัดขยะได้หยุดดำเนินการตั้งแต่ปี 2556 เนื่องจากเทศบาลเกิดปัญหาการขาดทุนในการบริหารจัดการ เนื่องจากมีปริมาณขยะป้อนได้แค่ประมาณวันละ 8 ตัน จากความต้องการวันละประมาณ 80 ตัน เนื่องจากพื้นที่เป้าหมายอำเภอใกล้เคียงไม่ได้นำขยะมาเข้าสู่ระบบตามเป้าหมาย แต่ปัจจุบันยังสามารถเดินเครื่องได้ ซึ่งจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเร่งด่วน ถึงที่มาการสำรวจออกแบบที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย หลังสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเข้าตรวจสอบ เพื่อหาทางบริหารจัดการเครื่องยนต์ เครื่องจักรชำรุดเสียหาย ส่วนเรื่องปัญหาการทุจริตหรือความผิดในการดำเนินการ ยังไม่ขอชี้ชัด จะตรวจสอบโดยละเอียดถึงดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายร่วมกับหลายฝ่าย เพื่อสรุปการดำเนินการต่อไป และจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย หากพบผิดจริงจะต้องดำเนินการตามกฎหมายแน่นอน สำคัญคือเรื่องปัญหามลภาวะจากขยะที่ไม่ได้กำจัด จะได้เร่งให้หน่วยงานรับผิดชอบแก้ไขเร่งด่วน ไม่ให้ชาวบ้านเดือดร้อน

ด้านนายวาหลิต เชื้อพระซอง อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านโพนสวรรค์ หมู่ 7 ต.นาเลียง อ.นาแก จ.นครพนม กล่าวว่า สำหรับปัญหามลภาวะจากบ่อขยะเทศบาลตำบลนาแกนะเน ยอมรับว่าส่งผลกระทบและสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงเป็นอย่างมากมานานหลายปี ยิ่งช่วง 2 ปีที่ผ่านมาหลังระบบกำจัดมีปัญหา ทำให้ขยะที่นำมาทิ้งปล่อยทิ้งเพื่อใช้การทำลายด้วยการเผา แต่ไม่สามารถจะกำจัดได้ สิ่งที่ตามมาคือเรื่องมลภาวะ ส่งกลิ่นเหม็น มีแมลงวันตอม บางทีมีลมพัดขยะเศษถุงพลาสติกปลิวว่อน สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้านในพื้นที่ โดยเฉพาะหน้าฝนเดือดร้อนมากเพราะกลิ่นเหม็นคลุ้ง และยังมีน้ำเสียไหลเข้าที่นาชาวบ้านเสียหาย เคยเสนอเรื่องนี้ไปทางเทศบาล อำเภอนาแก มาตลอด แต่ไม่ได้รับการแก้ไข จึงฝากผู้มีอำนาจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลแก้ไขเร่งด่วน เนื่องจากสุขภาพชาวบ้านย่ำแย่มาก