การรถไฟพัฒนากลุ่มจังหวัด รับรถไฟไทย - จีน - ญี่ปุ่น (30 ธ.ค. 58)

ฐานเศรษฐกิจออนไลน์ 30 ธันวาคม 2558
การรถไฟพัฒนากลุ่มจังหวัด รับรถไฟไทย - จีน - ญี่ปุ่น

ร.ฟ.ท.เดินหน้าบูมศักยภาพเศรษฐกิจเมืองตามแนวเส้นทางรถไฟไทย-จีน-ญี่ปุ่น ส่งหน่วยพัฒนาธุรกิจจับเข่าคุยผู้บริหารจังหวัด เตรียมพร้อมรับมือ ครอบคลุมทั้งกลุ่มจังหวัดอุตสาหกรรม ประตูการค้าชายแดน แหล่งท่องเที่ยว จนถึงกลุ่มเชื่อมโยงโลจิสติกส์ซัพพลายเชน เซียนประเมินชี้ราคาที่ดินย่านแหลมฉบังพุ่งไปแล้วไร่ละ 100 ล้าน

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าเตรียมมอบหมายให้หน่วยธุรกิจและฝ่ายการพาณิชย์ร.ฟ.ท. ประสานกับผู้บริหารระดับสูงของแต่ละจังหวัดตามแนวเส้นทางรถไฟไทย-จีน และไทย-ญี่ปุ่น เพื่อให้ร.ฟ.ท.เข้าไปหารือถึงแผนการพัฒนาแต่ละจังหวัดให้สอดคล้องกับแผนการพัฒนาเส้นทางรถไฟที่ร.ฟ.ท.เร่งดำเนินการ

โดยเฉพาะกลุ่มจังหวัดที่เป็นประตูการค้าชายแดน อาทิ กาญจนบุรี หนองคาย กลุ่มโลจิสติกส์การขนส่งเพื่อการเชื่อมโยง อาทิ ขอนแก่น อุดรธานี นครราชสีมา กลุ่มจังหวัดอุตสาหกรรม อาทิ สระบุรี อยุธยา สระแก้ว ชลบุรี กลุ่มจังหวัดแหล่งท่องเที่ยว อาทิ กาญจนบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น หนองคาย อุดรธานี ชลบุรี

“ไม่ต้องรอให้เปิดบริการแล้วจึงค่อยมาดำเนินการ เดินหน้าได้ทันที เบื้องต้นจุดที่ตั้งสถานีแต่ละแห่งมีความชัดเจนแล้วโดยเฉพาะจังหวัดที่แนวเส้นทางรถไฟผ่าน อาทิ กาญจนบุรี นครปฐม อยุธยา สระบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี หนองคาย ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง สระแก้ว จึงจะขอเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งบางจังหวัดมีแผนพัฒนารองรับไว้แล้ว จึงต้องการทราบแนวทางเพื่อส่งเสริมให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยใช้รูปแบบการประชาสัมพันธ์และแนวทางต่างๆได้อย่างตรงกับความต้องการมากขึ้น”

ด้านนายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดอร์นพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า ผลกระทบจากการพัฒนาโครงการรถไฟไทย-จีนและไทย-ญี่ปุ่น ตลอดจนโครงการรถไฟทางคู่-รถไฟความเร็วสูงด้านการปรับราคาที่ดินนั้น หลายพื้นที่เห็นภาพการเปลี่ยนแปลงได้ชัด อาทิ ย่านศรีราชา- แหลมฉบัง ชลบุรี บางทำเลพบว่าราคาพุ่งสูงไร่ละประมาณ 100 ล้านบาท ย่านกาญจนบุรี ย่านนครราชสีมา ขอนแก่น-อุดรธานี สระบุรี เบื้องต้นจะมีการปรับเปลี่ยนการขนส่งจากทางถนนมาเป็นทางรถไฟกันมากขึ้น จุดเชื่อมโยงจึงเปลี่ยนจากทางถนนมาเป็นสถานีรถไฟ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ก็จะเปลี่ยนแปลงตาม

สำหรับโซนเขาใหญ่ยังเน้นการท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์จะมีมาตรการบังคับหรือจำกัดการพัฒนาที่ดินออกมาบังคับใช้ในเร็วๆนี้ให้สิทธิ์เฉพาะการสร้างบ้านเพื่อการอยู่อาศัยเท่านั้น เป็นพื้นที่อนุรักษ์ แปลงเก่าราคาปรับเพิ่มขึ้นแน่นอน เพราะแปลงใหม่โดนจำกัดสิทธิการพัฒนา แก่งคอย-สระบุรียังเป็นฮับหลายด้านในอนาคตโดยเฉพาะการเชื่อมโยงการเดินทางและขนส่งสินค้า กาญจนบุรีคึกคักแน่ ซึ่งหากในพื้นที่นั้นๆมีการพัฒนาก็จะเห็นภาพการพัฒนาทางเศรษฐกิจตามไปด้วย โซนสมุทรสาครก็น่าสนใจ เนื่องจากมีนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่อยู่แล้ว หากเป็นโซนพื้นที่ภาคตะวันออกบางพลี สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรียังได้อานิสงส์ที่มีนิคมอุตสาหกรรม และอู่ตะเภาสนามบินแห่งที่ 3 ยกเว้นสระแก้ว-แหลมฉบัง-มาบตาพุดที่จะได้มากกว่าใคร เนื่องจากมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างมาก ราคาที่ดินศรีราชา-แหลมฉบังตารางวาละประมาณ 2.5 แสนบาทหรือ ปรับเพิ่มขึ้น บางแปลงมูลค่าไร่ละประมาณ 100 ล้านบาท นอกจากนั้นยังพบว่านิคมขยายตัวไม่น้อยกว่า 4-5 แห่ง ที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมมีมูลค่าเพิ่มขึ้น อีกทั้งตามรายทางยังได้อานิสงส์ตามไปด้วย คือประเภทอพาร์ตเมนต์ คอนโดมิเนียม บ้านจัดสรรเนื่องจากบางทำเลเป็นโซนที่มีกำลังซื้อจริงๆไม่ได้เน้นเพื่อการเก็งกำไร

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,117 วันที่ 27 – 30 ธันวาคม พ.ศ. 2558