พิษเพลิงไหม้บ่อขยะแพรกษาป่วยพุ่งเกือบพันราย (21 มี.ค. 57)
ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 มีนาคม 2557
พิษเพลิงไหม้บ่อขยะแพรกษาป่วยพุ่งเกือบพันราย
สารพิษเพลิงไหม้บ่อขยะแพรกษาทำป่วยพุ่งเกือบพันราย ด้านเด็ก 1 ขวบปอดอักเสบอาการดีขึ้นเรื่อยๆ สธ.ส่งหน่วยแพทย์เจาะเลือด เก็บปัสสาวะกลุ่มเสี่ยงเพิ่ม
วันนี้ (21 มี.ค.) นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าสถานการณ์มลพิษจากไฟไหม้บ่อขยะที่ อบต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ว่า วันนี้ที่ประชุมวอร์รูมติดตามสถานการณ์มลพิษจากไฟไหม้บ่อขยะที่ อบต.แพรกษา จ.สมุทรปราการ รายงานว่า สถานการณ์ควันไฟวันนี้ดีขึ้นเล็กน้อย ต้องเฝ้าระวังต่อไป นอกจากนี้ ได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอาสาสมัครสาธารณสุข กว่า 30 คน ออกแจกเอกสารให้ความรู้คำแนะนำประชาชนอยู่ในรัศมี 500 เมตรรอบบ่อขยะ ในการปฏิบัติตัว เพื่อลดความเสียง ลดผลกระทบต่อสุขภาพจากการสัมผัสหมอกควันจากบ่อขยะ โดยเฉพาะอันตรายของมลพิษที่เกิดจากการเผาไหม้ เช่น ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ซึ่งมีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจส่วนบน ทำให้มีอาการแสบจมูก แสบตา คอแห้ง ระคายเคืองผิวหนัง ทำลายเนื้อเยื่อปอดและในระยะยาวอาจกลายเป็นมะเร็งปอดได้ คาร์บอนไดออกไซด์ หากได้รับเป็นเวลานาน มีผลให้สมองขาดออกซิเจน ทำให้ง่วงซึม ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย หัวใจเต้นเร็วหมดสติและอาจถึงตายได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการสูดดม และควรอพยพออกจากพื้นที่จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ
“วันนี้หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของกระทรวงสาธารณสุข ออกให้บริการ 2 จุด ได้แก่ ที่ อบต.แพรกษา ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และที่วัดแพรกษา ให้บริการตั้งแต่ 08.00-16.00 น.จนถึงขณะนี้มีผู้ได้รับผลกระทบสัมผัสควันไฟบ่อขยะเข้ารับการตรวจรักษารวม 940 ราย ส่วนใหญ่ระคายเคืองตา แสบคอ แสบจมูก สำหรับเด็กอายุ 1 ปี 8 เดือนที่นอนรักษาที่โรงพยาบาลสมุทรปราการด้วยอาการปอดติดเชื้อ ขณะนี้อาการดีขึ้นเรื่อยๆ โดยวันนี้ได้จัดทีมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ เพื่อเก็บตัวอย่างเลือดและปัสสาวะเพิ่มเติมในกลุ่มเสี่ยงที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวัง เพื่อประเมินการทำงานของตับ และไต และจะติดตามให้ได้ทั้งหมด” ปลัด สธ.กล่าว
นพ.นำพล แดนพิพัฒน์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ ในฐานะผู้อำนวยการวอร์รูมด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีเหตุการณ์ไฟไหม้บ่อขยะที่ อบต.แพรกษา จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ปรับแผนการจัดการปัญหาจากมลพิษควันไฟขยะเพิ่มเติม โดยแบ่งเป็น 4 ทีม ได้แก่ 1.ทีมบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข 2.ทีมเฝ้าระวัง 3.ทีมระบบโลจิสติกส์ 4.ทีมสื่อสารและประชาสัมพันธ์ เพื่อให้การทำงานที่ชัดเจนและเป็นระบบมากขึ้น ทั้งนี้ขอแนะนำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่รอบบ่อขยะ ให้ติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองและมลพิษในอากาศอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยสุขภาพ โดยมีการประสานงานใกล้ชิดกับกรมควบคุมมลพิษ