เปิดภาพ "โกดังลับภาชี" จ. อยุธยา - สารเคมีอันตรายกว่า 4000 ตัน ซุกซ่อน-รั่วไหลนอกระบบ

จากปฏิบัติการพิเศษร่วมกันของเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐนับ 100 นาย ในการบุกค้นตรวจสอบโกดังลับเก็บซ่อนกากสารพิษ ของบริษัทเอกอุทัย จำกัด ที่ ต. ภาชี อ. ภาชี จ. อยุธยา เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2566 เจ้าหน้าที่ไม่เพียงต้องเปิดฉากด้วยการตัดกุญแจรั้ว แต่ยังต้องใช้รถแบคโฮพังทลายกำแพงของโกดังหลายหลัง เพื่อค้นหากากสารพิษที่บริษัทซุกซ่อนไว้ จนพบถังและภาชนะขนาดใหญ่บรรจุสารเคมีใช้แล้ว และกากอุตสาหกรรม จำนวนมากมาย รวมเป็นปริมาตรหลายพันตัน ทั้งหมดถูกซุกซ่อนอยู่ด้านหลังกำแพงที่สร้างขึ้นบังตา ภายในโกดังขนาดใหญ่ 5 หลัง และมีอีกบางส่วนที่ใช้เศษยางรถ พลาสติก และขยะทั่วไปสุมทับกากอันตรายเพื่ออำพราง

 

สิ่งที่พบภายในโกดังลับภาชี คือ ถังเก็บสารเคมี IBC ขนาด 1,000 ลิตร และถังสารเคมีขนาดต่างๆ จำนวนนับไม่ถ้วน บริเวณโกดังเหล่านี้ เมื่อใช้เครื่องวัดสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) บางจุดพบค่า VOCs รวม มีค่าสูงถึง 2,000 ppb ซึ่งเป็นค่าสูงสุดที่เครื่องสามารถวัดได้

 

นอกจากนี้ ยังพบกากอุตสาหกรรม อื่นๆ อีกหลายชนิด เช่น กากซิลิโคลน กากสี -ถังสี สารทำละลาย กากน้ำมัน ขี้เถ้า รวมถึง ของเสียอันตรายจากโรงพยาบาล เก็บในรถลักเกอร์พ่วงที่ใช้บรรทุกกากอุตสาหกรรม (Lugger trucks) รวม 50 คัน และมีอีกหลายจุดที่พบเส้นยางกองทับถมสูงหลายเมตรเพื่ออำพรางถังบรรจุสารเคมีอันตราย

 

นอกจากนั้นยังพบบ่อคอนกรีตเก็บน้ำทิ้งที่มีกรดสูง และบ่อน้ำขนาดใหญ่ด้านหน้าในรั้วโรงงานที่ใช้เทน้ำเสียโรงงานที่เพิ่งถูกฝังกลบไปก่อนหน้ามีปฏิบัติการตรวจค้นเพียงไม่กี่วัน

 

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ที่ตรวจค้นโกดังแห่งนี้ประเมินว่า มีการลักลอบเก็บกากอุตสาหกรรมอันตรายในพื้นที่นี้ ไม่น้อยกว่า 4,000 ตัน

 

นอกจากการลักลอบเก็บสารเคมีจำนวนมหาศาลในโกดังหลายหลังแล้ว จากการสำรวจบริเวณโดยรอบโกดังที่ภาชี ยังพบการลักลอบทิ้งสารเคมี ที่เป็นของเหลวลงในคลองด้านหลังโกดัง ที่เชื่อมต่อกับคลองชลประทานสามขวา อันเป็นแหล่งน้ำสำคัญสำหรับการทำนาข้าว รวมถึงการเกษตรอื่นๆ ทำให้มีปลาในคลองตายเป็นจำนวนมาก และนาข้าวของเกษตรกรหลายรายในแถบนั้นได้รับความเสียหาย ที่เห็นชัดเจนคือ ต้นข้าวไม่สามารถเจริญเติบโตได้ตามปกติ