เอกสารแถลงข่าว: สิทธิในการอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี ต้องมีกฎหมาย PRTR (23 ม.ค. 67)

 

 

สิทธิในการอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี ต้องมีกฎหมาย  PRTR

 

 

กรุงเทพฯ , 23 มกราคม 2567 -  มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม มูลนิธิบูรณะนิเวศ กรีนพีซ ประเทศไทย และชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม จัดงานเสวนาในหัวข้อ “สิทธิในการอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี ต้องมีกฎหมาย PRTR” ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) เพื่อสื่อสารให้เห็นถึงความสำคัญและความจำเป็นที่ประเทศต้องมีกฎหมาย PRTR (กฎหมายเปิดเผยข้อมูลการปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายมลพิษ) เพราะการอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีเป็นสิทธิของประชาชนทุกคน ตามที่คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (United Nations Human Rights Council) ได้ลงมติเห็นชอบและประกาศไว้เมื่อเดือนตุลาคม 2564 ว่าสิทธิในสิ่งแวดล้อมที่ดี คือสิทธิมนุษยชน งานเสวนาในวันนี้มีคุณ Georgina LOYD ผู้ประสานงานระดับภูมิภาค ด้านกฎหมายสิ่งแวดล้อมและการกำกับดูแล ซึ่งเป็นตัวแทนจาก UNEP Asia Pacific ร่วมพูดคุยในประเด็นเรื่องสิทธิของประชนในการอยู่กับสิ่งแวดล้อมที่ดีอีกด้วย

 

 

กฎหมาย PRTR คือ สิทธิการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน (Community Right-to-Know) จะทำให้ประชาชนรู้ทั้งชนิดและปริมาณสารเคมีที่ปล่อยออกมา และยังทำให้รัฐกำกับและควบคุมการปล่อยมลพิษตั้งแต่แหล่งกำเนิด ซึ่งรวมถึงการกำหนดประเภทสารมลพิษหรือสารเคมีที่โรงงานต้องจัดทำรายงานข้อมูลโดยให้ฝุ่นละออง PM 2.5 อยู่ในบัญชีมลพิษและสารเคมีเป้าหมาย เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดเหตุอุบัติภัยสารเคมีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และประชาชนสามารถมีส่วนร่วมตรวจสอบ ป้องกันผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมได้

 

 

ปัจจุบันประชาชนกว่า 10,461 รายชื่อ ได้ร่วมลงชื่อสนับสนุนร่างกฎหมาย PRTR นับตั้งแต่วันที่ กรกฎาคม 2565 ที่ภาคีเครือข่ายภาคประชาชน เดินทางไปที่สัปปายะสภาสถาน เพื่อยื่นริเริ่มเสนอร่างพระราชบัญญัติการรายงานและเปิดเผยข้อมูลการปล่อยและเคลื่อนย้ายสารมลพิษ พ.ศ…. (PRTR) ต่อประธานสภา-ผู้แทนราษฎรเพื่อดำเนินการรวบรายชื่อ ในการเสนอร่างกฎหมายภาคประชาชนเข้าสู่กระบวนการนิติบัญญัติของรัฐสภา

 

 

เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ กล่าวว่า

หลายครั้งรัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ในกรุงเทพฯ จากภาคการจราจร เรามักมีคำถามเสมอว่าแล้วฝุ่นจากโรงงานอุตสาหกรรมนั้นมีจริง ๆ เท่าไหร่ ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีคำตอบ ด้วยความสงสัยว่าฝุ่นมันมาจากภาคการจราจรเยอะจริงหรือ เราได้ทำการวิจัยแหล่งที่มาของฝุ่นในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และพบข้อมูลที่น่าตกใจว่ากว่าร้อยละ 98 ของฝุ่นในจังหวัดสมุทรสาครมาจากการที่อุตสาหกรรมที่ขาดฐานข้อมูลการปล่อยมลพิษ ทำให้เห็นว่ารัฐกำลังแก้ปัญหาไม่ตรงจุด”

 

 

สมพร เพ็งค่ำ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาระบบการประเมินผลกระทบโดยชุมชน กล่าวว่า

กฎหมาย PRTR จะทำให้ประชาชน ชุมชน รู้เท่าทันมลพิษสิ่งแวดล้อม เพิ่มขีดความสามารถในการเฝ้าระวังความเสี่ยงและตัดสินใจรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที”

 

 

เปรมิกา บูลกุล ผู้ได้รับผลกระทบจากอุบัติภัย “หมิงตี้เคมีคอล” กล่าวว่า

ในฐานะที่ดิฉันเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากอุบัติภัย หมิงตี้เคมีคอล เพราะเพิ่งย้ายเข้าบ้านที่ซื้อใหม่ซึ่งอยู่ในรัศมีของโรงงานหมิงตี้ เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ดิฉันทราบเลยว่ากฎหมาย PRTR เป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยให้สามารถรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที หรืออาจทำให้ดิฉันคัดค้านการตัดสินใจของแฟน โดยไม่เลือกซื้อบ้านหลังดังกล่าวเสียตั้งแต่ทีแรกเลยก็เป็นได้ แต่ในสถานการณ์จริง ดิฉันไม่ได้รับรู้ถึงข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ว่าบริเวณไหนเป็นสถานที่ตั้งโรงงานใดบ้าง และแต่ละโรงงานอยู่ห่างจากสถานที่พักอาศัยมากน้อยเพียงไร ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่ดิฉันพร้อมทั้งแฟนและเพื่อนบ้าน ได้ย้ายกลับเข้ามาซ่อมแซมบ้านด้วยงบประมาณส่วนหนึ่งจากประกันบ้านและงบประมาณส่วนตัว หลังเหตุการณ์หมิงตี้ผ่านไปครบ 1 สัปดาห์ พวกเราต่างพบว่าตัวเองมีอาการผื่นขึ้น แสบคอ แสบตาและจมูกเป็นอย่างมาก โดยที่ไม่รู้เลยว่าอาการป่วยดังกล่าวจะส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวจากผลกระทบของอุบัติภัยหมิงตี้หรือไม่”

 

 

ประชาชนทั่วไปยังสามารถร่วมลงชื่อสนับสนุนร่างกฎหมายการรายงานและเปิดเผยข้อมูลการปล่อยและเคลื่อนย้ายสารมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม (PRTR) ได้ที่ www.thaiprtr.com จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2567 โดยหลังจากนี้ เครือข่ายภาคประชาสังคม ขอเชิญชวนประชาชนที่ร่วมแสดงพลังการสนับสนุนกฎหมาย PRTR โดยร่วมกันนำรายชื่อทั้งหมดไปยื่นต่อรัฐสภาในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567

 

 

สามารถดู ร่างกฎหมาย PRTR ฉบับเต็ม (คลิกเพื่อดาวน์โหลด) ได้ที่ 

 

 

 

ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ

สมฤดี ปานะศุทธะ ผู้ประสานงานสื่อมวลชน กรีนพีซ ประเทศไทย

โทร 081 929 5747 อีเมล:  spanasud@greenpeace.org