ชาวระยองเข้าร้องสื่อ นายทุนลงเครื่องดูดทรายจนตลิ่งพัง (14 ม.ค. 56)
เดลินิวส์ออนไลน์ 14 มกราคม 2556
ร้องนายทุนลงเครื่องดูดทรายจนตลิ่งพัง
วันนี้ (14 ม.ค.) นายบุญธรรม เครือวัลย์ อายุ 51 ปี บ้านเลขที่ 4/2 หมู่ 7 ต.กระแสบน อ.แกลง จ.ระยอง เครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต.กระแสบน เข้าร้องเรียนสื่อ ถึงกรณี มีนายทุนติดตั้งเครื่องดูดทรายที่บริเวณคลองกระแสบน ด้านทิศตะวันตกพื้นที่หมู่ 8 ต.ชุมแสง อ.วังจันทร์ ทำให้ฝั่งตรงข้ามด้านทิศตะวันออกติดพื้นที่ หมู่ 7 ต.กระแสบน อ.แกลง ได้รับผลกระทบจากการดูดทรายจนระบบนิเวศ ซึ่งเป็นป่าผักกูดและผักหนามขึ้นได้รับความเสียหายหมด ต้นไผ่บริเวณริมตลิ่งตามแนวยาวคลองพังเสียหาย เนื่องจากทรายริมตลิ่งจะเลื่อนไหลลงไปสู่ที่ต่ำ รวมทั้งสัตว์น้ำเช่น หอยได้รับกระทบจากกระกอนทรายก็หนีหายหมด รวมทั้งทำให้น้ำในคลองขุ่นเป็นระยะทางไกลส่งผลกระทบเกษตรกรชาวสวน เนื่องจากเครื่องดูดทรายจะดูดเอาพวกสัตว์น้ำ และทรายปะปนกันเข้าไปด้วย และคายเอาสิ่งที่ไม่ต้องการออกมาปล่อยทิ้งลงคลองเหมือนเดิม
นายบุญธรรม กล่าวว่า เจ้าของที่ดินติดคลองกระแสบนที่ได้รับผลกระทบจากการดูดทรายมาก ทำให้ผนังคอนกรีตสร้างกันดินริมตลิ่งพังทลายได้รับความเสียหาย กัดเซาะตลิ่งลึกเข้าไปในพื้นที่เป็นแนวยาว แต่ชาวบ้านไม่กล้าที่จะร้องเรียนหน่วยงานราชการเกรงอิทธิพลของนายทุน ส่วนตนเป็นเครือข่ายดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่ทรัพยากรฯในพื้นที่มาถูกทำลายจะทนนิ่งดูดายได้ นี่คือสาเหตุที่ต้องร้องสื่อเข้ามาช่วยเนื่องจากเมื่อเร็วๆนี้ได้ร้องเรียนด้วยวาจากับปลัดอาวุโสอำเภอแกลงและนายกเทศมนตรี ต.กระแสบน ให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าการติดตั้งเครื่องดูดทรายบริเวณดังกล่าวมีการขออนุญาตหรือไม่และเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาที่ชาวบ้านได้รับผลกระทบด้วย ที่ผ่านมามักมีนายทุนเข้าติดตั้งเครื่องดูดทรายในคลองกระแสบนจำนวนหลายจุด แต่ก็ไม่มีหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาดูแล ส่วนนายทุนรายนี้ชาวบ้านบอกว่าเป็นอดีตผู้นำชุมชนคนดังคนหนึ่งใน ต.กระแสบน เข้ามาซื้อที่ดินริมคลองฝั่งพื้นที่หมู่ 8 ต.ชุมแสง อ.วังจันทร์กว่า 20 ไร่ ทำธุรกิจดูดทรายขายอย่างเป็นล่ำเป็นสัน
ด้านนายเวรัชช์ ธาราสมบัติ นายอำเภอวังจันทร์ กล่าวยืนยันว่าในพื้นที่ หมู่ 8 ต.ชุมแสง ไม่มีการขออนุญาตดูดทรายแต่อย่างใด หลังทราบข่าวได้กำชับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว.