ไฟไหม้โรงกลั่นน้ำมัน "เชฟรอน" ในแคลิฟอร์เนีย-คาดทำราคาเชื้อเพลิงพุ่ง (7 ส.ค. 55)
ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 7 สิงหาคม 2555
ไฟไหม้โรงกลั่นน้ำมัน "เชฟรอน" ในแคลิฟอร์เนีย-คาดทำราคาเชื้อเพลิงพุ่ง
เปลวเพลิงและกลุ่มควันสีดำพุ่งขึ้นจากหน่วยกลั่นน้ำมันที่ 4 โรงกลั่นน้ำมันเชฟรอน เมืองริชมอนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย
รอยเตอร์ - เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ของเชฟรอนในเมืองริชมอนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (6) โดยสามารถมองเห็นเปลวเพลิงที่ลุกไหม้สูงขึ้นไปในอากาศและกลุ่มควันสีดำหนาทึบได้จากระยะไกล ขณะที่ทางการต้องสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ภายในบ้าน
ตำรวจเปิดเผยว่า เหตุเพลิงไหม้ซึ่งกินเวลานานกว่า 2 ชั่วโมงครึ่งเกิดขึ้นที่หน่วยกลั่นน้ำมันดิบซึ่งมีกำลังผลิต 245,000 บาร์เรลต่อวัน หรือราว 1 ใน 8 ของศักยภาพการกลั่นน้ำมันของรัฐแคลิฟอร์เนีย
เชฟรอนแจ้งต่อสำนักงานจัดการเหตุฉุกเฉินแห่งรัฐแคลิฟอร์เนียว่า เพลิงเริ่มลุกไหม้จากหน่วยกลั่นน้ำมันดิบที่ 4 เมื่อเวลา 18.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้กรดซัลฟิวริกและไนโตรเจนไดออกไซด์แพร่กระจายสู่อากาศ
วอลต์ กิลล์ โฆษกเชฟรอน ให้สัมภาษณ์ต่อสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นว่า “เรารู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขออภัยที่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง”
ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ซึ่งอาศัยอยู่ใกล้โรงกลั่นน้ำมันรายงานว่า ได้ยินทั้งเสียงระเบิดและไซเรนระหว่างที่เพลิงลุกไหม้ แต่โฆษกเชฟรอนปฏิเสธว่าไม่มีการระเบิดเกิดขึ้น และยังไม่สามารถระบุสาเหตุของเพลิงไหม้ได้
หากการผลิตน้ำมันในโรงงานเชฟรอนต้องหยุดชะงักลง ย่อมส่งผลกระทบต่อราคาเชื้อเพลิงในภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งแก๊สโซลีน เนื่องจากฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ มีแหล่งผลิตเชื้อเพลิงที่จะเป็นทางเลือกเฉพาะหน้าได้อยู่ไม่กี่แห่ง
หน่วยกลั่นน้ำมันดิบถือเป็นหัวใจหลักของกระบวนการกลั่นน้ำมัน โดยทำหน้าที่เปลี่ยนน้ำมันดิบให้เป็นวัตถุดิบขั้นกลาง (intermediate feedstocks) ส่งต่อไปยังหน่วยอื่นๆ สำหรับโรงงานใหญ่ๆ อาจต้องใช้เวลาซ่อมแซมหน่วยกลั่นน้ำมันนานหลายเดือน ซึ่งระหว่างนั้นกำลังผลิตก็จะค่อนข้างจำกัดมาก
ชาวบ้านในท้องถิ่นเคยออกมาวิพากษ์วิจารณ์เชฟรอนเกี่ยวกับปัญหามลภาวะ รวมถึงอัตราภาษีที่เชฟรอนจ่ายให้เมืองที่ยากจนอย่างริชมอนด์