ศาลสั่งเพิกถอนประทานบัตรเหมืองถ่านหินบ้านแหงแล้ว หลังชุมชนคัดค้านยืดเยื้อกว่าสิบปี (22 เม.ย. 63)

Green News TV 22 เมษายน 2563
ศาลสั่งเพิกถอนประทานบัตรเหมืองถ่านหินบ้านแหงแล้ว หลังชุมชนคัดค้านยืดเยื้อกว่าสิบปี

ศาลปกครองเชียงใหม่อ่านคำพิพากษาในคดี สั่งให้เพิกถอนประทานบัตรเหมืองแร่ลิกไนต์ ต.บ้านแหง อ.งาว จ.ลำปาง แต่ไม่พิจารณาเพิกถอนรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และรายงานการจัดทำประชาคม ด้านทนายมูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชนชี้ ชุมชนอาจยื่นอุธรณ์ต่อ

มูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน ให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ.2563 เวลา 10.00 นาฬิกา ศาลปกครองเชียงใหม่กำหนดนัดอ่านผลแห่งคำพิพากษา คดีประทานบัตรเหมืองแร่ถ่านหินลิกไนต์ บ้านแหง ลำปาง (ส.6/2558) โดยศาลปกครองชั้นต้นได้พิพากษาให้เพิกถอนประทานบัตรของ บริษัท เขียวเหลือง จำกัด แต่อย่างไรก็ดี ไม่พิจารณาให้เพิกถอนรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และรายงานการจัดทำประชาคมของโครงการตามที่โจทก์ร้องขอ

เหมืองบ้านแหงชาวบ้านกลุ่มรักษ์บ้านแหงชุมนุมประท้วงโครงการเหมืองแร่ลิกไนต์ในชุมชน ที่ต.บ้านแหง อ.งาว จ.ลำปาง //ขอบคุณภาพจาก: มูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน
คดีดังกล่าวเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับโครงการเหมืองแร่ถ่านหินลิกไนต์ ในพื้นที่บ้านแหง อำเภองาว จังหวัดลำปาง  พิพาท ระหว่าง ประชาชนกลุ่มรักษ์บ้านแหง ซึ่งมีนายเจตน์ ศรีเงิน เป็นผู้ฟ้องคดีที่ 1 ร่วมกับพวกรวม 386 คน ฟ้องร้องต่อผู้ถูกฟ้องคดีได้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ 1 กับพวกรวม 8 คน

โดยการฟ้องคดีดังกล่าวกลุ่มรักษ์บ้านแหงขอให้ศาลพิพากษาให้เพิกถอนประทานบัตรของ บริษัท เขียวเหลือง จำกัด เพิกถอนรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และเพิกถอนรายงานประชาคมที่จัดทำโดยไม่ชอบกฎหมาย และขอให้ตัดสินให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งแปดกระทำไม่ชอบด้วยกฎหมายในขั้นตอนต่างๆ ในการขออนุมัติอนุญาตประทานบัตร ขาดกระบวนการรับฟังความคิดเห็น การมีส่วนร่วมของประชาชน และการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร

อย่างไรก็ดี ส รัตนมณี พลกล้า ทนายความและผู้ประสานงานมูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน เปิดเผยว่า แม้ว่าศาลได้สั่งพิพากษาเพิกถอนประทานบัตรเหมืองแร่แล้วก็ตาม แต่ศาลยังมิได้พิจารณาเพิกถอน รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และรายงานการจัดทำประชาคม ซึ่งจัดทำอย่างไม่ถูกต้อง ไม่โปร่งใส ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

“ดังนั้นผลการพิพากษาวันนี้เป็นที่พอใจสำหรับการพิพากษาเพิกถอนประทานบัตร แต่ก็ยังอยากให้ศาลพิจารณาพิพากษาเรื่อง EIA และการจัดทำประชาชาคม ด้วย เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานต่อไป โดยหลังจากนี้ผู้ฟ้องคดีจะหารือกันอีกครั้งว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อหรือไม่” ส รัตนมณี กล่าว

ที่ผ่านมากลุ่มรักษ์บ้านแหงได้ร่วมกันต่อสู้และทำการคัดค้านโครงการมาตั้งแต่ เดือนกันยายน พ.ศ.2553 หลังจากที่ชาวบ้านทราบว่า จะมีโครงการเหมืองแร่ถ่านหินลิกไนต์มาตั้งในชุมชนของตน โดยมี บริษัท เขียวเหลือง จำกัด เป็นผู้ขอประทานบัตรทำเหมืองแร่บนพื้นที่กว่า 1,500 ไร่ โดยที่ชุมชนไม่ได้รับรู้มาก่อน ทำให้คนในชุมชนเกิดความกังวลถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินกิจการเหมืองแร่ถ่านหินในพื้นที่

นอกจากนี้ รายงานของ สำนักข่าวอิศรา ยังระบุว่า พื้นที่โครงการเหมืองแร่แห่งนี้ยังทับซ้อนกับพื้นที่ป่าต้นน้ำ และพื้นที่ทำกินของชาวบ้านหลายราย อีกทั้งยังพบว่าการทำประชาคมโครงการยังมีการทุจริตทำประชาคมเท็จ ปลอมแปลงลายมือชื่อของชาวบ้านหลายคน เพื่อให้สามารถดำเนินโครงการดังกล่าวได้

ดังนั้น ชาวบ้านกลุ่มรักษ์บ้านแหงจึงดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลปกครองเชียงใหม่ด้วยกันทั้งหมดสามคดี ได้แก่

1. คดีฟ้องเพิกถอนรายงานการไต่สวนพื้นที่เหมืองแร่ ฟ้องในปี 2556 (ส.2/2556) ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2561 คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์

2. คดีฟ้องเพิกถอนการออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติหรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติเพื่อทำเหมืองแร่ถ่านหินลิกไนต์ ฟ้องในปี 2557 (ส.13/2557) ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนใบอนุญาตป่าไม้ฯ เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2563

3. คดีฟ้องเพิกถอนประทานบัตรเหมืองแร่ลิกไนต์ 1 แปลง ฟ้องในปี 2558 (ส.6/2558) ที่จะนัดฟังคำพิพากษาวันนี้ (22 เมษายน 2563)