"ยกฟ้อง" คดี "ทุ่งคำ" ฟ้องไทยพีบีเอส-บุคลากร หมิ่นประมาท "เหมืองทองเลย" เรียก 50 ล้าน (16 พ.ย. 59)

กองบรรณาธิการมูลนิธิบูรณะนิเวศ 16 พฤศจิกายน 2559
"ยกฟ้อง" คดี "ทุ่งคำ" ฟ้องไทยพีบีเอส-บุคลากร หมิ่นประมาท "เหมืองทองเลย" เรียก 50 ล้าน


ภาพ: กานต์ ทัศนภักดิ์ (4 ธ.ค. 55)

ศาลอาญา รัชดาภิเษก พิพากษา “ยกฟ้อง” คดี บ.ทุ่งคำ ยื่นฟ้อง ไทยพีบีเอส และบุคลากร 5 คน ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ เรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท ศาลชี้ "คดีไม่มีมูล"

16 พฤศจิกายน 2559: จากกรณี ที่บริษัททุ่งคำ จำกัด ผู้ประกอบการเหมืองแร่ทองคำใน จ.เลย ได้ยื่นฟ้องสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส (Thai PBS) และบุคลากรรวม 5 คน ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและโทรทัศน์ และความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 และ 16 เรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2558 เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.3756/2558 ซึ่งศาลอาญา รัชดาภิเษก ได้นัดฟังคำสั่งในวันนี้ (16 พฤศจิกายน 2559) นั้น

ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. คิม ไชยสุขประเสริฐ ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส ได้รายงานความคืบหน้าโดสรุปของคดีดังกล่าว ผ่านทางเฟซบุ๊ค Kim C Sukprasert ว่า เมื่อเวลา 9.00 น. ที่ห้อง 812 ศาลอาญา รัชดาภิเษก ศาลได้ขึ้นบัลลังก์อ่าน "ข้อเท็จจริงที่ฟังได้จากการพิจารณา" โดยประเด็นที่ศาลพิจารณา ได้แก่

- ข้อเท็จจริงกรณีบ่อกักเก็บกากแร่ที่มีไซยาไนด์ของเหมืองทรุดตัว ทำให้สารโลหะหนักไหลลงสู่บ่อน้ำธรรมชาติ จนถูกกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) มีคำสั่งให้หยุดประกอบกิจการเพื่อแก้ไขปรับปรุง แม้ต่อมาจะเปิดดำเนินกิจการต่อได้ แต่ก็มีการตรวจสอบข้อมูลการปนเปื้อนทุก 3 เดือน

- ศาลได้ระบุถึง ข้อมูลที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมจังหวัดเลย ได้ระบุถึงการปนเปื้อนกินค่ามาตรฐานของไซยาไนต์ แมงกานีส แคดเมียม ในธรรมชาติและลำน้ำที่ชุมชนใช้อุปโภคบริโภค

- ศาลได้ระบุถึง ข้อมูลที่สาธารณสุขจังหวัดเลยได้มีประกาศเตือนไม่ให้ประชาชนบริโภคหอยขมในลำน้ำ

ศาลพิจารณา: จำเลยทั้ง 5 มีหน้าที่เสนอข้อมูลตามที่มีการตรวจสอบโดยหน่วยงานราชการ สืบสวนสอบสวนหาข่าวในข้อมูลที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม ไม่ได้สร้างเอง แม้จะเกิดความเข้าใจว่าโจทก์เกี่ยวข้องทำให้เกิดผลกระทบ แต่เป็นการวิพากษ์วิจารณ์ตามข้อเท็จจริง ติชมด้วยความเป็นธรรม ไม่เกินขอบเขตวิสัยที่ประชาชนพึงกระทำได้ ไม่ผิด กม.อาญา ม.329 (3)

คดีไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง

ทั้งนี้ จำเลยในคดีทั้ง 5 ราย ประกอบด้วย วิรดา แซ่ลิ่ม ผู้ดำเนินรายการช่วงข่าวพลเมือง, องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.), สมชัย สุวรรณบรรณ อดีต ผอ.ส.ส.ท., ก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ ผู้อำนวยการสำนักข่าว, โยธิน สิทธิบดีกุล ผู้อำนวยการสำนักโทรทัศน์และวิทยุ เป็นจำเลยที่ 1-5 ตามลำดับ

อนึ่ง จากกรณีเดียวกัน บริษัท ทุ่งคำ จำกัด ยังได้ดำเนินการยื่นขออนุญาตฟ้องดำเนินคดีกับ "น้องพลอย" เยาวชนนักข่าวพลเมืองซึ่งเป็นผู้ร่วมผลิตและนำเสนอข่าวพลเมืองตอนดังกล่าว ในคดีอาญาความผิดฐานหมิ่นประมาท ต่อผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดเลย อีกทั้งมีการแจ้งความดำเนินคดีที่สถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี กล่าวหาเยาวชนนักข่าวพลเมืองว่าหมิ่นประมาท แต่ต่อมาสถานพินิจฯ ได้มีความเห็นไม่อนุญาตให้ฟ้อง และส่งหนังสืออย่างเป็นทางการให้ครอบครัวของน้องพลอยเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2559  อย่างไรก็ตาม ในส่วนคดีที่สถานีตำรวจนครบาลมีนบุรีนั้นยังไม่มีความคืบหน้า แต่มีรายงานว่า ภายหลังรับแจ้งความ เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อจัดทำเป็นสำนวนคดีแล้ว จึงยังคงเป็นกรณีที่ต้องติดตามต่อไป