กนอ. อุทธรณ์คำสั่งศาลกรณีนิคมฯบ้านค่าย (3 ต. ค. 55)

ฐานเศรษฐกิจ 3 ตุลาคม 2555 (ปีที่ 32 ฉบับที่ 2,780 วันที่  4-6  ตุลาคม  พ.ศ. 2555)
กนอ.อุทธรณ์นิคมฯบ้านค่าย

บอร์ด กนอ.ไฟเขียวส่งเรื่องให้อัยการยื่นอุทธรณ์นิคมฯบ้านค่าย หลังศาลมีคำสั่งเพิกถอนการจัดตั้ง ยันทำถูกต้องตามกระบวนการก่อนประกาศ ขณะที่ไออาร์พีซีระบุไม่กระทบต่อแผนการพัฒนาที่จะเริ่มในปีหน้า ประเดิมเซ็นเอ็มโอยูกับปตท.เป็นลูกค้ารายแรกเช่าพื้นที่สาธิตปลูกสบู่ดำทำไบ โอดีเซล พร้อมโรดโชว์ดึงทุนญี่ปุ่นผุดอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นาย วีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหาร(บอร์ด)กนอ. ที่มีนายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธาน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้นำกรณีศาลปกครอง จังหวัดระยอง ที่มีคำสั่งพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ ส.8/2554 เพิกถอนประกาศการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมระยอง (บ้านค่าย) ตั้งอยู่ในตำบลหนองบัว และตำบลบางบุตร อำเภอบ้านค่าย  ในพื้นที่รวมกว่า 2,194 ไร่ ซึ่งที่ประชุมได้มีมติให้ดำเนินการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ด้วยเหตุผลข้อเท็จจริงตามกฎหมาย ที่ทางกนอ.มั่นใจว่า ได้ทำถูกต้องแล้ว และได้ดำเนินการตามประกาศของกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ที่ให้มีการประกาศเขตพื้นที่ก่อน ซึ่งหลังจากนี้คงต้องชี้แจงให้ทางศาลปกครองสูงสุดต่อไป โดยจะประสานงานกับอัยการให้ดำเนินการยื่นต่อศาลปกครองฯภายในสัปดาห์นี้

ส่วน กรณีที่ทางบริษัทไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน) ต้องการให้ประกาศเขตพื้นที่ซ้ำ หลังจากที่ได้ทำรายละเอียดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอผ่านการอนุมัติ แล้วนั้น ซึ่งต้องแยกเป็นอีกกรณีหนึ่ง โดยจะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของบอร์ดอีกครั้ง

ด้านนายชาญ ศิลป์ ตรีนุชกร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจท่าเรือและบริหารจัดการทรัพย์สิน และรักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายแผนธุรกิจองค์กร บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน)(บมจ.) เปิดเผยว่า แม้ศาลปกครองฯจะสั่งเพิกถอนการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมระยอง(บ้านค่าย) ก็ตาม แต่การดำเนินงานยังถือว่าอยู่ในแผนที่บริษัทวางไว้ที่จะเริ่มพัฒนาในต้นปี หน้า ประกอบกับในท้ายคำสั่งศาลระบุไว้ว่า หากการทำอีไอเอผ่านการอนุมัติแล้ว ให้ทางกนอ.สามารถประกาศเขตการจัดตั้งนิคมได้ตามปกติ เนื่องจากการยื่นเรื่องฟ้องต่อศาลขอให้เพิกถอนการจัดตั้งนิคม ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการก่อนที่การศึกษาอีไอเอจะแล้วเสร็จ จากขั้นตอนต่างๆ นี้ จึงเชื่อว่าไออาร์พีซีจะไม่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งศาลฯดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลังจากนี้ไปทางกนอ.คงจะหารือกับบอร์ด และสามารถประกาศจัดตั้งนิคมได้อย่างช้าที่สุดไม่น่าจะเกินไตรมาสที่ 1 หรือไตรมาสที่ 2 ปีหน้า ซึ่งขณะนี้ทางบริษัทได้เข้าพื้นที่ดำเนินการเพียงการปลูกต้นทุนเพื่อเป็นแนว กันชนระหว่างชุมชนและพื้นที่นิคมเท่านั้น ขณะที่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป

สำหรับ พื้นที่ตั้งของนิคมแห่งนี้ จะเน้นไปที่อุตสาหกรรมสีเขียวเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่จะคัดเลือกลูกค้าที่เข้ามาลงทุนด้านพลังงานทดแทน เช่น ไบโอดีเซล โซลาร์ฟาร์ม อุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ไบโอพลาสติกชีวภาพ เป็นต้น

นายชาญศิลป์ กล่าวอีกว่า สำหรับความสนใจของนักลงทุนที่จะเข้ามาในนิคมอุตสาหกรรมระยองนั้น ที่ผ่านมาได้ออกไปโรดโชว์ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นประเทศที่มีความเข้มงวดทางด้านสิ่งแวดล้อม โดยได้รับการสนับสนุนอย่างดี ที่พื้นที่นิคมแห่งนี้ จะเป็นทางเลือกหนึ่งให้มีการตัดสินใจเข้ามาลงทุน เพราะเน้นเฉพาะอุตสาหกรรมที่เป็นสีเขียวเท่านั้น

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาบริษัท ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงเบื้องต้น(เอ็มโอยู)กับบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน)(บมจ.) ซึ่งถือเป็นลูกค้ารายแรก ที่จะมาขอเช่าพื้นที่ในนิคมฯระยอง จำนวน 20 ไร่ เพื่อทำแปลงสาธิตในการปลูกสบู่ดำ นำไปเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งหากโครงการนี้ประสบความสำเร็จจะช่วยให้เกิดการส่งเสริมปลูกสบู่ดำให้กับ ประชาชนมากขึ้น เพราะจากผลการศึกษาพบว่า ปลูกสบู่ดำ 1 ไร่ สามารถผลิตน้ำมันได้ 150 ลิตร สามารถนำไปใช้ทดแทนน้ำมันดีเซลได้ทันที ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรเกิดรายได้ขึ้นมาอีกทางหนึ่ง