สั่งปิดโรงงาน "บิ๊กโคล่า" มูลค่า 3 พันล้าน ฐานปล่อยน้ำเสีย(12 ก.ย. 55)

ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 กันยายน 2555
บิ๊กโคล่าอ่วม ถูกสั่งปิดโรงงานมูลค่า 3 พันล้านฐานปล่อยน้ำเสีย

นิคมอมตะ สั่งปิดโรงงานผลิตน้ำดำ "บิ๊ก โคล่า" หลังปล่อยน้ำเสียลงบ่อ ด้านอาเจ กรุ๊ป ชี้เตรียมหาแนวทางแก้ปัญหาเร่งด่วน ยันผุดโรงงานใหม่ไม่เกี่ยวกับโรงงานถูกปิด แจงบริษัทต้องการขยายกำลังการผลิตรับการเติบโต ลั่นยังลุยตลาดน่้ำอัดลมไทย หลังกวาดแชร์ 20%
       
แหล่งข่าวจากนิคมอุตสาหกรรมอมตะนครกล่าวว่า เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมานี้นิคมฯ ได้สั่งปิดโรงงานผลิตน้ำอัดลมบิ๊กโคล่า หรือบริษัท อาเจ กรุ๊ป ที่อยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี ซึ่งมีการลงทุนร่วม 3,000 ล้านบาท เนื่องจากโรงงานดังกล่าวนำน้ำเสียจากโรงงานปล่อยทิ้งลงบ่อน้ำร้างขนาด 15 ไร่ บริเวณหมู่ 7 ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา นานกว่า 6 เดือน จนน้ำในบ่อเน่า และส่งกลิ่นเหม็น ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านที่ใช้น้ำจากบ่อในการสาธารณูปโภค และล่าสุดวานนี้ (12 กันยายน) ได้มีการประชุม 3 ฝ่ายเพื่อหาข้อสรุปถึงแนวทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
       
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา นายโซริน วอยเนีย หัวหน้าฝ่ายการตลาด เอเชียแปซิฟิก บริษัท อาเจ กรุ๊ป ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลมบิ๊ก โคล่า ได้กล่าวถึงกรณีโรงงานปล่อยน้ำเสียว่า บริษัทได้พยายามหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาบิ๊ก โคล่า ถือว่าเป็นน้ำอัดลมที่ประสบความสำเร็จในตลาดไทย ครองส่วนแบ่ง 15-20% ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา อีกทั้งครึ่งปีแรกของปีหน้า บริษัทยังได้วางแผนทุ่มงบหลายพันล้านบาทสร้างโรงงานแห่งใหม่ขึ้นที่ภาคเหนือ บนพื้นที่ 40 ไร่ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยสถานที่ได้
       
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้บริษัท อาเจ กรุ๊ป มีแผนสร้างโรงงานที่จังหวัดขอนแก่น แต่เนื่องจากติดปัญหาด้านการลงทุนและเรื่องกฎหมายธุรกิจ เพราะเป็นบริษัทต่างชาติ 100% ไม่สามารถสร้างโรงงานนอกนิคมอุตสาหกรรมได้ ดังนั้นการลงทุนสร้างโรงงานต้องไปอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเพราะจะได้รับส่งเสริมการลงทุน ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่าโรงงานแห่งที่ 2 จะจัดตั้งขึ้นที่จังหวัดลำพูน เนื่องจากมีนิคมอุตสาหกรรมสามารถรองรับการลงทุนที่เกิดขึ้นได้
       
ด้านแหล่งข่าวจากบริษัท อาเจ กรุ๊ปกล่าวว่า สาเหตุที่บริษัทอาเจสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ขึ้นเพื่อขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเท่าตัว รองรับการเติบโตของธุรกิจน้ำอัดลม แต่การสร้างโรงงานใหม่ไม่ใช่เพื่อรองรับสาเหตุที่ต้องปิดโรงงาน อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมีการลงทุนต่อเนื่องในไทย เนื่องจากตลาดน้ำอัดลมในประเทศไทยยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และมีการเติบโตได้อีกมาก อีกทั้งยังมีช่องว่างทางการตลาด และอัตราการดื่มน้ำอัดลมของคนไทยยังน้อยเมื่อเทียบกับอเมริกา หรือเม็กซิโก